ในวงการ Esports เกม Dota 2 มีมา 9 ปีแล้ว ถือว่าอยู่ยงคงกระพันและแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย รวมถึงอุตสาหกรรม Dota 2 ประเทศของเราก็มีมายาวนานเช่นกัน หลายคนมีไอเดียในการเป็น Pro Gamer หรือไต่อันดับเพื่อเป็นนักกีฬา Esports แต่เส้นทางสู่การไปถึงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการทดสอบมากมาย แต่ที่ผ่านมามีผู้เล่น Dota 2 ชาวไทยคนหนึ่งที่ได้ฝึกฝนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันระดับโลก และเขาก็ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน อีกทั้งยังสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยอีกด้วย jabz dota 2
และในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ ผู้เล่น Dota 2 ที่เป็นคนไทยเพียงคนเดียวในการแข่งขันระดับโลก เขาคนนั้นชื่อว่า “Jabz” ครับ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย
ประวัติพอสังเขปของ jabz dota 2
ชื่อจริงของ แจ๊บซ์ คือ อนุชา จิรวงศ์ ปัจจุบันเขาอายุ 20 ปี Jabz เดิมเป็นผู้เล่นในทีม Everlast.Gamefilling ในปี 2014 จากนั้นได้ย้ายทีมไปที่ Signature Trust (ซ้ายจาก MiTH Trust) ในปี 2015 ซึ่งทำผลงานได้ดีในช่วงเวลานี้ โดยปกติเขาเล่นในเลนกลางและเป็นตัวสนับสนุนจนกระทั่ง Jabz ไปสิงคโปร์ในเวลาต่อมา หลังจากทราบข่าวว่า Iceiceice หนึ่งในผู้เล่น Dota 2 ได้ประกาศตามหาผู้เล่นเพื่อตั้งทีมใหม่ จนถึงเดือนกันยายน 2559 ทีมดังกล่าวถูกเรียกว่า Team Faceless โดย Jabz เล่นในตำแหน่งที่เรียกว่า Four Support (โฟร์ซัพพอร์ตหมายถึงตำแหน่งในการซื้อสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับฮีโร่ที่มาช่วยทีม)
jabz dota 2 เล่นให้กับ Team Faceless เป็นเวลา 10 เดือนเท่านั้นหลังจากตกรอบคัดเลือก SEA ในรายการ The International 7 ในปี 2017 หลังจากที่เว้นช่วงไป เขาและ Iceiceice ตัดสินใจย้ายทีม พวกเขาไปที่ Mineski และเนื่องจากการทำงานที่ดีของเขากับ Mineski เขาจึงได้รับฉายาว่า Great Support Player ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาและทีมของเขาได้รับรางวัล PGL Open Bucharest 2017 และต่อมาในปี 2018 ทีมยังได้รับรางวัล Dota 2 Asia Championship 2018 ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน . นับตั้งแต่เปิดตัว อุตสาหกรรม esports Dota 2 ก็ดำเนินมาประมาณ 5 ปีแล้ว Talon.Jabz
เป็นคนไทยเพียงคนเดียว ที่ได้ไปแข่งขันในรายการ The International 8
ในปี 2018 Jabz ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทีม Mineski และนำทีมเข้าร่วมการแข่งขัน International 8 หรือ TI8 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา แต่ฉันต้องยอมรับว่ามีเพียงทีมที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่แข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้ ทีมอยู่ในกลุ่ม A ซึ่งส่งผลให้ชนะ 5 แพ้ 11 ทำให้อยู่อันดับที่ 7 ของกลุ่ม บังคับให้พวกเขาเข้าสู่รายการหลักในสายล่าง
สำหรับรอบ Main Event คู่ต่อสู้ที่พวกเขาต้องเผชิญคือ TNC Predator แต่ชนะไป 1-0 (การแข่งขัน Best of 1) จนต้องเจอกับทีมใหญ่อย่าง Virtus Pro ต้องยอมรับว่าดูเกมนี้ และผลการแข่งขันคือ Virtus Pro เอาชนะ Mineski 2-0 (การแข่งขัน Best of 3) ทำให้ทีมตกรอบ และทีมงานได้รับเงินรางวัล 382,983 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 12 ล้านบาท หลังจากทัวร์นาเมนต์ TI8 สิ้นสุดลงในวันที่ 12 กันยายน 2018 Jabz ได้ประกาศว่าเขาเข้าร่วม Fnatic และได้เล่นกับทีมมาจนถึงปัจจุบัน dota 1 juggernaut
Jabz กับ Fnatic ที่ฟอร์มการเล่นขึ้นๆ ลงๆ
ขณะที่อยู่ที่ Fnatic เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้าทีมหรือกัปตัน เพื่อดูแลทีมและคัดเลือกฮีโร่ให้กับผู้เล่นของทีมในระหว่างการแข่งขัน รวมถึงยังมีผู้เล่นคนอื่นๆ ที่มาร่วมทีม ได้แก่ Iceiceice และ MP ดูผลการแข่งขันแบบทีมตั้งแต่ Jabz อยู่กับ Fnatic เราก็รู้ดีว่าถ้าเราเจอทีมเล็ก ยังพอชนะ แต่ถ้าเจอทีมใหญ่ก็มักจะแพ้ เริ่มจาก Kuala Lanpur Major ที่เอาชนะ TNC Predator ได้ รอบคัดเลือก SEA แต่ต้องแพ้ Evil Genius ในรอบที่ 3 ของสายล่าง
ในช่วงต้นปี 2019 พวกเขาแพ้ PSG.LGD ที่ Chongqing Major ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ มีรอบคัดเลือกสำหรับ Dreamleague ซีซั่น 11 โดยเอาชนะทีมเก่า Mineski แต่น่าเสียดายที่เขาแพ้ Virtus Pro ในรอบแบ่งกลุ่มล่าง จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ในระหว่างการแข่งขัน MDL Disneyland Paris Major ในรอบคัดเลือก พวกเขาก็เอาชนะ TNC Predator ได้อีกครั้ง (เบื่อและเมาจริงๆ) แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อ Fnatic แพ้ Keen Gaming ทีมจีน 1-0 ทำให้ต้องตกรอบอย่างรวดเร็ว
ช่องทางติดตาม Jabz
แม้ว่าผลงานของทีม Fnatic อาจยังไม่เป็นที่ถูกใจของแฟนๆ Dota 2 หลายๆ คน แต่ก็อยากฝากติดตามเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับ Jabz และทีมของเขาด้วยนะครับ ในวันที่ 15 -19 พฤษภาคมนั้นจะเป็นการแข่งขัน Epicenter Major รอบคัดเลือก โดยในโซน SEA นั้น จะแข่งขันในวันที่ 16 – 19 พฤษภาคมครับ อ้อ รวมไปถึง Fnatic นี้ผ่านเข้าไปเล่นในการแข่งขัน The International 9 หรือ TI9 ที่จะจัดการแข่งขันในเดือนสิงหาคม ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนด้วยนะครับ ยังไงก็ฝากส่งแรงใจให้ Jabz และ Fnatic ผ่านเข้ารอบไปด้วยนะครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
