เกม resident evil เกมดังที่หลายคนคงรู้จักเป็นอย่างดี และเป็นเกมที่ถูกสร้างมาหลายส่วน ซึ่งสร้างความสนุกสนานและความประทับใจให้กับแฟน ๆ ของเกมเป็นอย่างมาก แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้เกี่ยวกับเกมนี้ บทความเกมวันนี้จะพาคุณไปไขความลับที่ซ่อนอยู่ในเกม หากใครเป็นแฟนตัวยงของเกมนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด ความลับก็คือว่าจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่บ้าง มาติดตามชมไปพร้อมกันครับ
เกม resident evil จุดเริ่มต้นของเกม มาจากการรีเมกเกม Sweet Home
เกม resident evil เริ่มจากต้นกำเนิดของเกมที่หลายคนคงรู้จักก่อนที่เกมจะผลิตที่ Capcom ทีมพัฒนาต้องการรีเมคเกมสยองขวัญชื่อดังอย่าง Sweet Home ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้สร้าง 5 คนกับการค้นหาภาพวาดในตำนานจนต้องพบกับความหลอนในนั้น ในเวลานั้น Capcom ไม่มีสิทธิ์สร้างเกมนี้อีกต่อไป แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นที่ทำให้โปรดิวเซอร์ ชินจิ มิคามิ ต้องสร้างเกมสยองขวัญเรื่องใหม่จาก Sweet Home แต่โปรดิวเซอร์รายนี้ไม่เห็นด้วย และสร้างเนื้อหาและตัวละครใหม่จนกลายเป็น Resident Evil
Capcom จัดประกวดการตั้งชื่อเกม
ตอนที่ตั้งชื่อเกมในตอนแรก Capcom ไม่สามารถตั้งชื่อได้ เกมจะมีชื่อว่าอะไร? เพราะชื่อเกม Bio Hazard เป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก ที่ไม่มีจำหน่ายในต่างประเทศ ทางค่ายเกมชื่อดัง จึงได้มีการจัดประกวดตั้งชื่อเกมภายในบริษัท หนึ่งในชื่อเหล่านั้นก็มีชื่อของเกมปัจจุบันด้วย ซึ่งหมายถึงการเข้ามาของความชั่วร้ายที่ได้รับจากนักออกแบบเกมของบริษัท เขาให้เหตุผลว่า เกมดังกล่าวมีฉากอยู่ในคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด ชื่อจึงเหมาะสม ฝั่งผู้กำกับชาวอเมริกันไม่ชอบชื่อนี้ แต่นักการตลาดและผู้บริหารชาวญี่ปุ่นชอบชื่อนี้ สุดท้ายก็ใช้ชื่อเกมปัจจุบัน
Dewey และ Gelzer ตัวละครหลักที่ถูกทิ้งในเกมภาคแรก
ตัวละครของเกมในตอนแรกนั้นถูกสร้างขึ้นมาจริง ๆ ให้เล่นได้มากถึง 4 คนก่อนที่จะถูกตัดเหลือเพียง 2 ตัวละครในที่สุด ตัวละครที่ถูกตัดออกมีชื่อว่าดิวอีและเกลเซอร์ โดยเกลเซอร์เชื่อมโยงกับจิลวาเลนไทน์ก่อน บทบาทนี้จะถูกตัดออกและมอบให้กับแบร์รี่ เบอร์ตัน หากนำตัวละครสองตัวนี้เข้ามาอาจทำให้เนื้อเรื่องบางส่วนเบี่ยงเบนไปจากการเล่นในปัจจุบันอย่างมาก เนื่องจากความเหมาะสมและบทบาทของตัวละครจึงไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่นมากนัก
แท้จริงแล้วเกมภาค 2 คือภาคจบของเกมซีรีส์ดัง
เกมต้นฉบับในภาคที่ 2 หลายๆ คนคงทราบดีว่าตัวเกมถูกสร้างใหม่ในเวอร์ชัน 1.5 ซึ่งคืบหน้าไปแล้วกว่า 70% แต่ชินจิ มิคามิได้ลองเล่นแล้วรู้สึกว่ามันไม่สนุก พวกเขาจึงยกเลิกและสร้างเกมใหม่ขึ้นมา เนื้อหาและตัวละครมีการเปลี่ยนแปลง โปรดิวเซอร์ “โยชิกิ โอคาโมโตะ” ผู้สร้างเกมภาค 2 ไม่เห็นด้วยกับตอนจบของเรื่อง และยังบอกด้วยว่าตัวเกมสามารถพัฒนาได้ในภาคต่อไป จึงมีการแก้ไขตอนจบ จนมีเกมภาคต่อที่ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
ฉากเปิดเกมในภาค 2 เกือบเป็นแบบ Stop Motion
หากใครยังจำเรื่องราวของฉากเปิดเกมในภาคแรกได้ คุณต้องนึกถึงหนังสยองขวัญ ที่ทั้งสนุกและตื่นเต้น ในการออกแบบฉากเปิดของเกมภาคที่ 2 เดิมทีทีมงานใช้นักแสดงสดเหมือนภาคแรก แต่สุดท้ายทีมพัฒนาก็เสนอให้ใช้ Stop Motion จากของเล่น ซึ่งจะใช้กล้องถ่ายภาพของเล่นที่เคลื่อนไหวช้าๆ ทีละส่วน แล้วนำทั้งหมดมารวมกันเป็นภาพเคลื่อนไหว แต่ในที่สุดก็ถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็น CG ซึ่งเราเห็นในฉากเปิดของภาค 2
สัตว์ประหลาดในภาค 7 ที่สร้างมาจากเนื้อสัตว์ของจริง
หากใครเคยเห็นเบื้องหลังเกมนัดที่ 7 มาก่อนคงจะรู้ดี วัตถุหรือเสียงทุกชิ้นถูกสร้างขึ้นจากวัตถุจริง ส่วนรายการต่างๆ ก็เป็นเรื่องของการสแกนรายการแล้วแปลงให้เป็นระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างภาพ 3 มิติโดยการสแกนเนื้อจริงแล้วเติมให้ดูเหมือนศพ ก่อนที่ทุกอย่างจะเข้าสู่เกมรวมถึงใบหน้าของสัตว์ประหลาดด้วย มันทำจากวัสดุจริงด้วย นั่นทำให้เกมนี้ดูสมจริงและน่าขยะแขยงมาก
เกมภาค 7 ถูกสร้างโดยอิงมาจากนิยายที่ชื่อว่า The Shining
เกม resident evil ต้นแบบของเกมในภาคที่ 7 จริงๆ แล้วบางส่วนมีพื้นฐานมาจากนวนิยายสยองขวัญชื่อ The Shining ซึ่งเมื่อเรื่องราวของนวนิยายเรื่องนี้ถูกใส่เข้าไปในส่วนนี้ ใครๆ ก็บอกว่าทุกอย่างกลับไปสู่ต้นกำเนิดของความสยองขวัญ ที่ถูกซ่อนไว้ด้วยความชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ภายใน ทีมงานยังได้ใส่ชื่อ แจ็ค เบเกอร์ (Jack Baker) จาก แจ็ค ทอร์รันซ์ ตัวเอกของนิยายเข้าไปในเกมด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นการไขความลับจากซีรีย์เกมชื่อดัง ที่บางคนอาจจะรู้แล้ว และบางคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะข้อมูลบางอย่างเพิ่งถูกเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ บางครั้งคุณต้องไปดูเบื้องหลังจึงจะรู้ หากเรื่องราวบางเรื่องเป็นสิ่งที่คุณเคยทราบมาก่อน เราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ส่วนเนื้อหาของเกมในเรื่องถัดไปจะเกี่ยวกับอะไร? คุณต้องติดตามเว็บไซต์ของเราอย่างระมัดระวังและไม่พลาดบทความดีๆอย่างแน่นอน
บทความแนะนำ